สาเหตุของการเกิดสิวคืออะไร

0
สาเหตุของการเกิดสิว

หลายคนมักมีคำถามว่า สิว เกิดจากอะไรบ้าง ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลพบว่า สาเหตุของการเกิดสิวนั้นอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย  การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย ปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในร่างกาย ปัจจัยที่เกิดจากการใช้ยา รวมถึงพฤติกรรมในการดูแลตัวเอง ที่ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดสิวได้ทั้งสิ้น 

เหตุที่ทำให้เกิดสิวเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย propionibacterium acnes หรือ P. acne กระตุ้นให้รูขุมขนบริเวณที่เป็นสิวมีการสร้างเคอลาติน (keratin) ที่ผิดปกติ ทำให้เกิดการอุดตันที่บริเวณรูขุมขนนั้นมากขึ้น กลายเป็นเม็ดสิว และสิวอักเสบได้ หากเราเป็นกลุ่มคนที่เป็นสิวง่าย การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหาการเกิดสิว ให้กับตัวเราได้

สิว ที่เกิดจากปัจจัยภายนอก

1. มลภาวะ

มลภาวะต่างๆ  ฝุ่น ควันรถยนต์ สิ่งสกปรก ที่ลอยอยู่ตามท้องถนน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผิวเราไม่ต้องการ อาจจะทำให้สิ่งต่างๆเหล่านี้สะสมที่ใบหน้า ทำให้เกิดการอุดตันทีรูขุมขน จึงเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่เพิ่มขึ้น

2. แสงแดด

แสงแดดมีรังสียูวีสูงมาก โดยบางครั้งแม้เราออกไปสัมผัสกับแสงแดดเพียงไม่กี่นาที่ อาจทำให้เรารู้สึก แสบร้อน หรือ เหงื่อออก เนื่องจาก แสงแดดจะกระตุ้นให้ผิวเกิดรอยแดง ผิวอักเสบ รวมถึง กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกเพิ่มขึ้น ก็เป็นสาเหตุของสิวที่เพิ่มขึ้นได้เช่นกัน

3. เครื่องสำอาง

การใช้เครื่องสำอางในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้หญิ่งอย่างเราๆ แต่หารู้ไหมว่า เครื่องสำอางบางอย่างที่ไม่ได้มีมาตรฐานในการผลิต หรือ มีการตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีที่มากเกินไป และสารเคมีบางอย่างอาจจะกระตุ้นให้เกิดสิวได้ เพราะหากเครื่องสำอางที่เราใช้ทาตกค้างอยู่ที่ผิว จะทำให้เกิดการอุดตันของผิวหนัง และทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้

4. การทำความสะอาดใบหน้า

การล้างหน้าที่ไม่ถูกวิธี  อีกทั้งการเลือกผลิตภัณฑ์มาทำความสะอาดที่ไม่ตรงกับผิวหน้าก็มีผลต่อความมันบนใบหน้า และ ปัญหาการเกิดสิว  อย่างเช่น หากเราทากันแดด แต่ล้างหน้าด้วย สบู่ล้างหน้า ก็ไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ทำให้เกิดการอุดตัน ได้เช่นกัน

สิว ที่เกิดปัจจัยภายใน

1.  Hormones (ฮอร์โมน) 

ร่างกายสร้างฮอร์โมน Testosterone ทำให้มีการสร้างไขมันเพิ่ม โดยมากฮอร์โมนจะเริ่มสร้างเมื่ออายุ 11-14 ปี ดังนั้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นผิวหนังบริเวณใบหน้าจะมันมากขึ้น ความมันบนหน้า และ แบคทีเรีย P. acne จะเพิ่มมากขึ้นในบริเวณรูขุมขนบริเวณที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิว

2. Bacteria  หรือ แบคทีเรีย

คนที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย การที่ต่อมไขมันสร้างน้ำมันออกมามากเกินจะทำให้ เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้แบคทีเรีย (P.acne) เจริญเติบโตได้ดี ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ บวมแดง

3. ความเครียด

ความเครียดจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ความครียดจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ของการเกิดสิวตามมาได้

ปัจจัยบางอย่าง อาจไม่ใช่ต้นเหตุของการเกิดสิว แต่เป็นเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เป็นสิวได้ง่ายกว่าเดิม

* อาหารที่มีน้ำตาล หรือ แป้งมาก

* การสูบบุหรี่

* เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนได้

* ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ก่อให้เกิดการอุดตัน

* การนอนดึก

* ทานน้ำน้อย

* เครียดเป็นประจำ

* การดูแลความสะอาดที่นอน ปลอกหมอน และ ผ้าขนหนู

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ

0
10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ

หากบางครั้งคุณโดนสิว บุก จนน่ารำคาญ ไม่ว่าจะ บีบสิว กดสิว ก็แล้ว ก็ยังไม่หาย แถมกลับมาเป็นซ้ำๆ ที่เดิมๆ ซึ่งแอดมินมันใจว่า ใครที่เป็นปัญหานี้อยู่ต้อง เบื่ออย่างแน่นอน บางคนต้องไปซื้อยามาใช้แต่ ก็ตามมาด้วย ผิวแห้ง ระคายเคืองง่าย

วันนี้ แอดมินได้รวบรวม 10 วิธีการดูแลสิว แบบที่ว่าลองแล้วได้ผลกับตัวเอง มาบอกต่อกันค่ะ

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
ดินสอพอง

1. ดินสอพอง

ดินสอพองเมื่อนำมาบดและละลายกับน้ำ จะมีความเหนียวหนืด เหมาะกับการนำมาพอกหน้าเพื่อลดความมันบนผิวหน้า ช่วยให้สิวอักเสบแห้งเร็ว นิยมนำมาผสมกับสมุนไพรอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสิว

แต่ใน 1 สัปดาห์ไม่ควรพอกเกิน 3 ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งมากจนเกินไป และอาจจะทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
หอมแดง

2. ลดสิวด้วยหอมแดง

นำหอมแดงมาสับ หรือ ปั่น ผสมน้ำสะอาดลงไปนิดนห่อย แล้ว นำทั้งน้ำทั้งเนื้อหอมแดงมาพอกหน้าไว้ประมาน 10 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้ทำได้ทุกวัน ช่วยให้สิวอักเสบยุบตัวลง และทำให้รอยดำรอยแดงจากสิวจางลง ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ลดการเกิดสิวใหม่

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
ไข่ขาว

3. ไข่ขาว

เป็นเหมือนกาวจากธรรมชาติ ช่วยดีท็อกซ์ผิวหน้าให้สะอาดลึกถึงรูขุมขน ช่วยให้ผิวเด้งกระชับ ช่วยลอกสิวเสี้ยนได้ด้วย ยิ่งใช้ร่วมกับมะนาวก็จะทำให้สิวยุบเร็วขึ้น รอยสิวจางลง ช่วยให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
น้ำมะนาวสด

4. สูตรลดสิวด้วยมะนาว

บีบน้ำมะนาวสดๆ ในถ้วย ผสมน้ำอุ่นลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำสำลีมาชุบน้ำมะนาวให้ชุ่ม แปะพอกไว้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที วิธีนี้จะช่วยทำให้สิวแห้งและยุบตัวเร็ว อีกทั้งยังจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย สามารถทำได้ทุกวัน

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
มะละกอสุก

5. มะละกอ

มะละกอ นอกจากจะนิยมทานเพื่อช่วยเรื่องระบบขับถ่าย และช่วยบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังสามารถนำมาช่วยรักษาสิวอักเสบ และลดรอยดำจากสิวได้ด้วย เนื่องจากในมะละกอมีเอนไซม์ปาเปน (enzyme papain) และ ไคโมปาเปน (Chymopapain) ช่วยย่อยโปรตีน ซึ่งสามารถลดการอักเสบต่างๆ ของผิวหนังได้ และยังช่วยสมานแผลได้ดี

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
น้ำผึ้งและโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

6. ลดรอยสิวด้วยน้ำผึ้งและโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

ส่วนผสมยอดนิยมสำหรับการรักษาสิวและบำรุงใบหน้า ให้เตรียมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผสมกับน้ำผึ้งแท้ในอัตราส่วนที่เท่ากัน คนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า หรือจะแต้มที่สิวอย่างเดียวก็ช่วยลดรอยสิวได้ ที่สำคัญยังทำให้ใบหน้าแลดูกระจ่างใสมากขึ้น แถมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
มะเขือเทศสด

7. ลดรอยสิวด้วยมะเขือเทศ

มะเขือเทศถือเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับการบำรุงใบหน้าให้สดใสและเปล่งประกาย ซึ่งการใช้มะเขือเทศนั้นก็สามารถรักษาสิวได้ดีเช่นกัน โดยเริ่มจากการหั่นมะเขือเทศเป็นแว่นๆ หรือจะใช้วิธีการบดมะเขือเทศให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกันก็ได้ จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ จะช่วยให้รอยสิวค่อยๆ จางลง

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
ว่านหางจระเข้

8. ลดรอยสิวด้วยว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการรักษาสิว ซึ่งจะทำหน้าที่ในการลดสิวและลดการอักเสบของสิวได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งยังช่วยลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวให้ดูจางลงได้อีกด้วย ที่สำคัญคือมีความปลอดภัยและสามารถรักษาสิวให้หายได้อย่างรวดเร็วทันใจ หมดกังวลเรื่องการแพ้จากการรักษาสิวด้วยยาแต้มสิวไปได้เลย

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series)
น้ำแข็ง

9. ลดรอยสิวด้วยน้ำแข็ง

เป็นวิธีรักษาสิวและลดสิวที่ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่นำก้อนน้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูที่มีความนุ่ม จากนั้นนำมาวางบนสิว จะช่วยลดการอักเสบ ลดอาการคัน และยังช่วยลดรอยสิวได้เป็นอย่างดี

10 วิธีลดสิวโดยธรรมชาติ | Aqua+ Series
เปลือกมังคุด

10. เปลือกมังคุด

มังคุด เป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องลดการอักเสบของผิวหนังได้ โดยในเปลือกมังคุดจะมีสารสำคัญที่เรียกว่า GM-1 ที่ช่วยระงับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และยังมีสาร Xanthone ช่วยต้านการอักเสบ รวมถึงสาร Tannin ที่ช่วยสมานแผลให้หายเร็วมากขึ้น

สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องสิว หากกำลังมองหาวิธีรักษาสิวและลดรอยสิว ลองหันมาใช้วิธีธรรมชาติและปฏิบัติตามคำแนะนำในการลดและป้องกันสิวตามที่กล่าวมาดู นอกจากจะให้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดแล้ว ยังไม่ต้องกังวลใจเรื่องความปลอดภัยต่อผิวหน้าอีกด้วย

วิธีหลีกเลี่ยงการเกิดสิว

0
วิธีหลีกเลี่ยงการเกิดสิว

จากบทความ สาเหตุของการเกิดสิวคืออะไรนั้น เราพอจะทราบแล้วใช่ไหมคะว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เราเกิดความเสี่ยงในการเป็นสิว

โดยปกติแล้วการดูแลสิวที่ถูกต้องที่สุดคือการพบแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษา แต่บางครั้งการพบแพทย์ก็อาจจะเป็นการสิ้นเปลือง และหลายคนคงอยากรู้ว่า หากเราจะดูแลและป้องกันสิวด้วยตัวเองนั้นมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

วิธีหลีกเลี่ยงการเกิดสิว | Aqua+ Series
รักษาความสะอาดหน้าอย่างสม่ำเสมอhttps://www.aquaplus.co.th/collections/aqua-series-products

1. รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ 


สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวให้ตรงกับปัญหาผิว หากมีการแต่งหน้า หรือ ทาครีมกันแดด ควรหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดได้อย่างหมดจด เพื่อไม่ให้ตกค้างที่รูขุมขนจนทำให้เกิดการอุดตัน

วิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดสิว | Aqua+ Series
หลีกเลี่ยงการกระตุ้นสิวhttps://www.aquaplus.co.th/blogs/infos/acne-causes

2. หลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอก ที่กระตุ้นให้เกิดสิว

เช่นแสงแดด และฝุ่นควัน งดการล้างและถูหน้าแรง ๆ หรือนวดหน้า รวมถึงการบีบและแกะสิว

วิธีหลีกเลี่ยงการเกิดสิว | Aqua+ Series
ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

3. ดื่มน้ำวันละเยอะๆ วันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร

เนื่องจากน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญ 2 ใน 3 ของร่างกาย หากดื่มน้ำน้อยจนเกินไปจะทำให้ผิวแห้งหมองคล้ำ และมีความมันบนใบหน้าร่วมด้วย จึงทำให้เกิดสิวได้ง่าย ดังนั้นควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน จะช่วยรักษาสมดุลร่างกาย และ ลดโอกาสในการเกิดสิวได้อีกด้วย

วิธีหลีกเลี่ยงการเกิดสิว | Aqua+ Series
พักผ่อนให้เพียงพอ

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

ปรับรูปแบบการใช้ชีวิตให้สมดุล และรู้จักจัดการความเครียด เนื่องจากความเครียด ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ผิวมีความมันขึ้น โอกาสในการเกิดสิวก็จะมีตามไปด้วย ดังนั้นหากรู้ตัวว่าเริ่มเกิดความเครียด ให้หากิจกรรมต่างๆ ทำ เช่นการ พักผ่อน เดินเล่น หรือ ทำให้หายเครียด ก็จะช่วยการลดโอกาสในการเกิดสิวได้เช่นเดียวกัน

วิธีการดูแลการเกิดรอยสิว

0

วิธีการดูแลการเกิดรอยสิว | Aqua+ Series

สำหรับปัญหาจุดด่างดำหรือรอยสิวคงไม่ต้องอธิบายกันมากว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง สาเหตุก็คือ ผลลัพธ์ที่มักมาหลังจากเกิดสิวนั่นเอง

รอยสิว คือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว เมื่อเป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตัน ในบางครั้งหลังสิวนั้นหายไป จะทิ้งร่องรอยเอาไว้ ซึ่งรอยสิวเหล่านั้นเป็นผลมาจากกระบวนการฟื้นฟูสภาพผิวด้วยการสร้างสารคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ จึงปรากฏเป็นรอยสิวในรูปแบบต่าง ๆ บนผิวหนัง โดยการดูแลรักษาผิวหนังแต่เนิ่น ๆ หลังเกิดสิว อาจช่วยป้องกันการเกิดรอยสิวได้

อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวหายเอง

จริงๆแล้วเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด และ ไม่ต้องเสียเงินในการดูแล แต่หากคุณอายุยังน้อย การดูแลด้วยวิธีนี้อาจจะได้ผล แต่หากคุณมีอายุ 20+ ขึ้นไป หากคุณมีรอยเป็นจำนวนมากการปล่อยให้หายเอง อาจจะช้าเกิดไปสำหรับ วัยรุ่นอย่างๆเราๆได้

ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids)

ในปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบแอลกอฮอล์เบสและแบบวอเตอร์เบส ส่วนการเลือกใช้ก็ดูว่าเราเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่าง เรตินเอ  หรือ ดิฟเฟอริน  เหล่านี้สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดจุดด่างดำจากรอยแผลสิวได้เป็นอย่างดี 



ครีมลดรอยสิว

ให้คุณพยายามเลือกครีมลดรอยดําจากสิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี วิตามินซี อาร์บูติน กลูต้าไธโอน โคจิก ทรานซามิค ฯลฯ ซึ่งสามารถลดรอยแดง รอยดำจากสิวได้ค่อนข้างดี




การทำเลเซอร์

เลเซอร์ผิวหนัง เป็นวิธีการที่แพทย์จะใช้อุปกรณ์ยิงลำแสงเลเซอร์ไปบนผิวหนังบริเวณที่เป็นรอยสิว เพื่อกำจัดผิวหนังชั้นนอกที่เกิดความเสียหายหลังการเกิดสิวนั้นทิ้งไป และกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ในผิวชั้นกลาง เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน และหลังทำเลเซอร์อาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าสภาพผิวจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่



วิตามิน ซี / อาร์บูติน / กรดโคจิก (Vitamin C, Arbutin, Kojic Acid)

สารที่แพทย์ผิวหนังแนะนำให้ใช้เพื่อลบเลือนร่องรอยสิวที่เกิดขึ้น คือ วิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย อาร์บูติน เป็นสารสกัดจากต้นแบร์เบอร์รี่ (Bearberry) และกรดโคจิก สารสกัดทางธรรมชาติที่ได้จากเห็ด สารเหล่านี้มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว และลบเลือนร่องรอยจากการเกิดสิวได้ด้วย โดยผู้ป่วยสามารถมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องมีคำสั่งจากแพทย์

การฉีดสเตียรอยด์

เป็นวิธีการรักษารอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว โดยเฉพาะชนิดแผลเป็นนูน แพทย์จะฉีดสารคอร์ติโคสเตียรอยด์ เช่น ไตรแอมซิโนโลน อีซีโตไนด์ (Triamcinolone Acetonide) เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่ต้องการทำการรักษา

การกรอผิว

วิธีการนี้ แพทย์จะใช้เครื่องมือกรอขัดผิวหนังส่วนที่เป็นรอยสิวออกไป เพื่อให้ผิวหนังชั้นที่ลึกลงไปได้ผลัดเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่แทนที่เซลล์ที่ถูกจำกัดไป รอยสิวจะหายไป ในขณะที่เซลล์ผิวหนังใหม่จะช่วยทำให้ผิวส่วนที่เป็นรอยสิวแต่เดิมเรียบเนียนสม่ำเสมอกับผิวบริเวณใกล้เคียงมากขึ้น แต่กว่าสภาพผิวจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์

4 อันดับ ผลิตภัณฑ์ดูแลสิวที่ดีที่สุดในปี 2019

0

Top-4-Acne-Treatments

ความลับเรื่องสิวที่สาวๆ อาจไม่เคยรู้มาก่อน

สวัสดีค่ะสาว ๆ กลับมาพบกับบทความจาก Euphoria อีกครั้งแล้วนะคะ

สำหรับบทความครั้งนี้ขออนุญาตเอาใจสาว ๆ ที่มีปัญหาเรื่องสิวกันเสียหน่อย…แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเรื่องสิวเป็นเรื่องของวัยรุ่นเท่านั้นนะคะเพราะไม่ว่าสาว ๆ วัยไหนก็เป็นสิวได้

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจไปว่าปัญหาสิว ๆ เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เชื่อไหมจากการสำรวจของเราพบว่าสาวๆ ส่วนใหญ่รับมือกับปัญหาสิวไม่ถูกวิธีและทำให้สิวรุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าเดิม ไม่ต้องไปอื่นไกล ก็แม้แต่สมาชิกในทีม Euphoria ของเราที่คิดว่ามีประสบการณ์จัดการปัญหาสิวมาตั้งแต่วัยรุ่นก็เพิ่งรู้ตัวว่าพวกเรารักษาสิวผิดวิธีมาตลอดเลยค่ะ!

วันนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะ
ว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงรักษาสิวผิดวิธีมาตลอด

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหนก็ไม่มีผลิตภัณฑ์สารพัดนึกใดที่สามารถรักษาสิวให้หายชะงัก การใช้ผลิตภัณฑ์แรง ๆ อาจทำให้เกิดผลดีระยะสั้นแต่ทำลายผิวของคุณในระยะยาวจนกู่ไม่กลับได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาค้นหากันว่าอะไรคือสิว ทำไมคนเราจึงมีสิว และแชร์ 3 ขั้นตอนลับในการรักษาสิวให้หายขาดกันค่ะ

สิวคืออะไร?

สิวถือเป็นโรคชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากต่อมรูขุมขนบนผิวหนังถูกอุดตันและติดเชื้อ สิวอาจผุดขึ้นบนหน้า อก ไหล่ คอ หรือหลังส่วนบน รวมถึงเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้ใหญ่ตอนต้น เรื่อยไปจนถึงสาวๆ อายุ 50 ปีก็ยังมีความเสี่ยงอยู่นะค่ะ

อะไรคือสาเหตุหลักของสิว?

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าสิวเกิดจากอะไรกันแน่ค่ะ แต่เชื่อว่าสาเหตุหลักน่าจะเกิดจากระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ในร่างกายแปรปรวน หากแอนโดรเจนเพิ่มขึ้นต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันมากขึ้นซึ่งทำให้เกิดไขมันส่วนเกินบริเวณผิวหนัง ดังนั้นสาเหตุหลักของการเกิดสิวคือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งฮอร์โมนของสาว ๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ในหลายช่วงเวลา เช่น ตอนตั้งครรภ์ และการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนนี้เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ผิวลอก ผิวมัน แบคทีเรีย กรดไขมันในต่อมไขมัน

อีกส่วนหนึ่งคือไลฟ์สไตล์ของสาวๆ ก็อาจทำให้ปัญหาสิวแย่ลงได้เช่นกัน

แล้วเราจะรักษาสิวยังไงดี?

ตอบยากมากเลยค่ะ…อย่างที่บอกไปข้างต้น หากมีผลิตภัณฑ์ตัวไหนสามารถแก้ปัญหานี้ได้ชัวร์ 100% รับรองขายดีจนผลิตไม่ทันแน่ ๆ ค่ะ

สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือเริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหาสิวของเราก่อนว่ารุนแรงแค่ไหน เล็กน้อย ปานกลาง หรือผุดขึ้นแดงเต็มหน้าไปหมด หากรู้ว่าปัญหาสิวของเรารุนแรงมากแค่ไหน สาวๆ ก็จะสามารถเลือกว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์เคาน์เตอร์แบรนด์ธรรมดาหรือต้องรักษาเข้มข้นด้วยการหาหมอควบคู่ไปด้วย

แล้วอะไรทำให้รักษาสิวไม่หาย:
การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาแค่ตัวเดียว

ความลับ: รักษาแบบผสมผสานสิ!

ทราบไหมคะ ว่าการรักษาแบบผสมผสานโด่งดังมากในสหรัฐอเมริกาและเกาหลี รวมถึงตอนนี้แบรนด์อเมริกาส่วนใหญ่เน้นการรักษาแบบผสมผสานเพื่อรักษาสิวที่เกิดจากความมันและคนไข้มีผิวไวต่อการแพ้

ทางที่ดีที่สุดในการรักษาสิวคือการทำให้ผิวสะอาดเป็นประจำด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง!

การดูแลผิวให้สะอาดปราศจากสิวเป็นประจำถือเป็นศาสตร์ของสาวเกาหลีที่เรียกว่า K-Beauty ก็คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมสาวเกาหลีถึงไม่ค่อยมีสิวหรือหน้ามัน หยุดสงสัยและตามเรามาดู 3 ขั้นตอนรักษาสิวแบบผสมผสานที่สาวๆ เกาหลีทำเป็นประจำกันเถอะค่ะ

ขั้นตอนที่ 1 => ขั้นการชำระล้าง >> เราแนะนำให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบน้ำหรือแบบเจล

ขั้นตอนที่ 2 => ขั้นการใช้โทนเนอร์ >> ไม่ใช่แค่ผิวมันเท่านั้นที่ควรใช้โทนเนอร์ ทุกสภาพผิวควรใช้นะค่ะแต่ต้องใช้ให้ถูกผลิตภัณฑ์ด้วย (ท้ายบทความนี้ ลองดูบทความ 4 ผลิตภัณฑ์รักษาสิวของปี 2018 ของเรากัน)

ขั้นตอนที่ 3 => การดูแลพิเศษ >> ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว น้อย ปานกลาง หรือมาก วิธีใช้คือแต้มเจลหรือครีมไปที่สิวหรือบริเวณที่เป็น หากคุณไม่มีปัญหาแพ้ง่ายก็ลองใช้มอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมบำรุงผิวทาทับต่อไปด้วยก็จะดีมากเลยค่ะ

การรักษาสิวที่ดีที่สุดเป็นอย่างไร?

จากแบรนด์ทั้งหมด 15 แบรนด์ เราทดสอบและคัดเลือก 4 ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาสิวแบบผสมผสาน

ดูตารางเปรียบเทียบข้างล่างนี้แล้วเรารับรองว่า
คุณจะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด
และกำจัดสิวไม่ให้กวนใจได้แน่นอนค่ะ

  สินค้าแนะนำ !      
ชื่อสินค้า 3 Steps Acne Solution Acne Therapy
for Combination Skin Kit
Basic Kit Proactiv+® 3-Step System
  Acne Treatment System Acne Therapy for Combination Skin Kit Basic Kit Proactiv+® 3-Step System
อันดับ 1 2 3 4
แบรนด์ Aqua+ Series ZenMed Exposed Skin Care Proactiv
รูปแบบผิว ผิวมัน และผิวแพ้ง่าย ผิวมัน และผิวผสม ผิวมัน ผิวมัน (ไม่แนะนำสำหรับผิวแพ้ง่าย)
จุดประสงค์ กรดซาลิไซลิก กรดซาลิไซลิก กรดซาลิไซลิก กรดซาลิไซลิก และเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์
ผลลัพธ์ ★★★★★ ★★★★★ ★★★★ ★★★
แหล่งกำเนิด USA USA USA USA
ราคา 990.-
(1,455.-)
2,830.- 1,970.- 3,800.-
การันตีคืนเงิน 60 วัน ไม่มีการันคืนเงิน 1 ปี 60 วัน
แหล่งจำหน่าย ShopNow ShopNow ShopNow ShopNow
ส่งฟรีทั่วไทย บริการ ไม่มีบริการ ไม่มีบริการ เพิ่มเติม

ทำไมผู้หญิงเกาหลีถึงมีผิวหน้าสวยใสไร้สิว ไร้รอยด่างดำ

0
ืทำไมผู้หญิงเกาหลี หน้าสวยใสไร้สิว

มาดูเคล็ดลับความงามสไตล์สาวเกาหลี

เมื่อพูดถึงศาสตร์แห่งความงามแล้ว ใคร ๆ ก็ยอมรับว่าแบรนด์เกาหลีบุกเข้ามา “ ปฏิวัติวงการ ” ขนานแท้ และยิ่งนานวันก็ยิ่งครองความนิยม มีสาวกอยู่ทั่วทุกมุมโลก เหตุผลก็เพราะผลิตภัณฑ์จากเกาหลีเขามีเคล็ดลับและนวัตกรรมล้ำสมัยซึ่งพอเอามารวมกันแล้วเลยกลายเป็นเอกลักษณ์และทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขามีประสิทธิภาพสุด ๆ ไปเลยล่ะ

ถ้าสาว ๆ เบื่อกับการเสียเงินรักษาสิวและริ้วรอยไปอย่างไม่ได้ผลแล้วล่ะก็ วันนี้ Euphoria Thailand มีเคล็ดลับความงามของแบรนด์เกาหลีที่จะช่วยสร้างผิวกระจ่างใส แลดูสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์จากภายในสู่ภายนอกอย่างที่คนเกาหลีบอกว่า “ ปากคุณโกหกเรื่องอายุได้ แต่ผิวคุณทำไม่ได้หรอก

ความลับนั้นอยู่ที่การคลีนซิ่งแบบหลายขั้นตอนนั้นเอง!

มาดูว่าสาวเกาหลีเขาคลีนซิ่งผิวกันยังไงบ้าง

ชำระล้าง (Cleansing):

เริ่มจากการชำระล้างใบหน้าด้วยคลีนซิ่งแบบน้ำที่ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่มีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัก เช่น เหงื่อ สิ่งสกปรก และช่วยล้างสิ่งแปลกปลอมที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น เครื่องสำอาง และครีมกันแดด ออกไป

ส่วนนี้ต้องระวังให้ดีเพราะคลีนซิ่งแบบน้ำที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของคุณอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเป็นสาเหตุของความมันและสิว ถ้ายังไม่แน่ใจว่าผิวของคุณเหมาะกับคลีนเซอร์ตัวไหน มาดู รีวิว 5 คลีนเซอร์มาแรงของเราในปี 2019 ได้เลยจ้า


มอยส์เจอไรเซอร์

สังเกตไหมว่าสาวเกาหลีเขายอมเสียเวลาทาทั้งเซรั่มทั้งมอยส์เจอไรเซอร์ทับไปทับมาหลายชั้นทุกวัน ก็นั่นแหละค่ะ คำตอบที่ทำให้ผิวพวกเธอขาวกระจ่างใสอย่างที่เราเห็น

หากคุณอยากใช้มอยส์เจอไรเซอร์ โลชั่น และครีมให้ได้ผลสูงสุดแล้วล่ะก็ คุณต้องทามอยส์เจอไรเซอร์หลังอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ เป็นตัวแรกเลย เพราะหลังอาบน้ำหรือแช่ตัวในน้ำมา รูขุมขนของคุณจะเปิดและพร้อมรับสารอาหารจากมอยส์เจอไรเซอร์ทันที ดังนั้น รีบทาก่อนที่ตัวจะแห้งเลยนะคะ ถ้ายังมองหาผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ชั้นเยี่ยมอยู่ล่ะก็ ลองดูบทความของเราเกี่ยวกับ มอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีที่สุดของปี 2019 ดูสิ

พอทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นขั้นตอนแรกไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทาอะไรก็แล้วแต่สาว ๆ เลยค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์กระชับรูขุมขน ลดริ้วรอย หรืออะไรก็ตาม มอยส์เจอไรเซอร์จะช่วยทำให้มันมีประสิทธิภาพสูงสุด

ทำไมความชุ่มชื้นถึงสำคัญนักล่ะ ?

ผิวขาดน้ำจะทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดชื่น แต่ด้วยคุณสมบัติของมอยส์เจอไรเซอร์ผิวของคุณจะเนียนนุ่ม สะท้อนแสงได้ดีทำให้ผิวเปล่งปลั่งดูมีออร่าโดยธรรมชาติ และนั่นแหละคือความลับที่ทำให้สาว ๆ ถ่ายรูปขึ้นด้วย

การบำรุงตามลักษณะผิว – อาวุธลับอยู่ที่วิตามินซี:

สองขั้นตอนที่เรากล่าวมาแนะนำให้สาว ๆ ทำเป็นประจำทุกวันนะคะ ส่วนขั้นตอนที่สามนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของสาว ๆ ถ้าเป็นสิวขั้นวิกฤติ ก็แนะนำใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดสิวหรือรักษาอื่นๆ ควบคู่กันไป ถ้าอยากฟื้นบำรุงผิว ก็ลองใช้ผลิตภัณฑ์แอนตี้เอจจิ้งดู

แต่สำหรับใครที่อยาก มีผิวเนียนนุ่ม เปล่งปลั่งดูมีสุขภาพดี เราขอแนะนำเซรั่มวิตามินซีเลยค่ะ ก็เพราะวิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้านและหมองคล้ำให้ดูดีจากภายในสู่ภายนอก แถมยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูผิวอ่อนล้าให้กลับเปล่งปลั่งด้วยการเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนซิทริคเอซิดจะช่วยชำระสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน รวมถึงกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอย่างอ่อนโยน

หากอยากใช้พลังการฟื้นบำรุงของซิทริคเอซิดแล้วล่ะก็ แนะนำให้สาวๆ ลองใช้เซรั่มวิตามินซี (ลองดู 5 เซรั่ม “วิตามินซี” สุดฮิต บำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส ! ประจำปี 2019 ที่เราเขียนเอาไว้ได้) หรือจะบีบมะนาวครึ่งลูกลงในชาม เติมน้ำ นำไปชุบสำลีก่อนนำไปทากับผิว สารสกัดจากมะนาวจะช่วยให้ผิวของคุณกระจ่างใสและสะอาดหมดจด แต่เตือนไว้ก่อนว่าอย่าใช้มะนาวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีก่อนออกจากบ้านนะค่ะ เพราะวิตามินซีเมื่อโดนแดดแล้วมันอาจกัดผิวทำให้หน้าคล้ำเสีย

ลองทำตามที่เราแนะนำสัก 1-2 เดือนสิคะ รับประกันเลยว่าผิวขาวกระจ่างใสอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

4 เซรั่มวิตามินซี บำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส สุดฮิต ปี 2019!

0

Euphoria Thailand | Enriched C-Serum 4 เซรั่ม “วิตามินซี” สุดฮิต บำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส !

เซรั่มวิตามินซี สำหรับผิวหน้า

เมื่อพลิกฉลากดูส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว คุณมักจะเห็นวิตามินซีเป็นส่วนผสมอยู่บ่อยครั้ง ผลิตภัณฑ์ต้านริ้วรอยและฟื้นฟูผิวก็มักผสมวิตามินซีในปริมาณมาก แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิตามินซีที่ผสมเข้าไปนั้นเวิร์คจริง ๆ มีข้อพิสูจน์ไหนที่บอกได้ว่าวิตามินซีและผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยชะลอวัยได้จริง คำตอบคือทั้งจริงและไม่จริง

เพราะจริงอยู่ที่วิตามินซีมีประสิทธิภาพที่พิสูจน์แล้วในทางวิทยาศาสตร์ว่าสามารถช่วยต่อต้านริ้วรอยและฟื้นฟูผิวได้จริง แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ…ผลิตภัณฑ์ที่ผสมวิตามินซีหลายตัวกลับไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเพราะวิตามินซีที่ผสมอยู่นั้นไม่ได้ผ่านกระบวนการสกัดอย่างถูกต้อง การได้พบกับเซรั่มวิตามินซีที่มีคุณภาพสูงจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณเพราะ เพราะคุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจโดยไม่ต้องเสียเงินเปล่า

เซรั่มตัวไหนคือที่สุด
ในหมู่แบรนด์เครื่องสำอางค์นับพันแบรนด์ ?

หากคุณอยากให้ผิวย้อนวัยกลับไปสู่ความสดใส เปล่งปลั่ง และสุขภาพดีเช่นเดียวกับในอดีต เซรั่มวิตามินซีรูปแบบเวชสำอางคือหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการบำรุงผิว คุณสามารถใช้ได้ในขั้นตอนการบำรุงผิวทุก ๆ วันของคุณเพื่อให้เห็นผลลัพธ์บนผิวที่สดใส และริ้วรอยลดเลือนลง

มากไปกว่านั้น วิตามินซีรูปแบบนี้ยังช่วยทำให้การใช้ครีมกันแดดของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมผิวของคุณยังมีภูมิต้านทานดีขึ้นอีก เราได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพเซรั่มวิตามินซี 20 ขวดโดยใช้เกณฑ์ข้างต้นพบเพียง 4 ขวดนี้เท่านั้นที่ได้ผลดีที่สุด

Aqua+ Series เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่เราได้เลือกมา ซึ่งมีเซรั่มวิตามินซีที่ดีด้วยเหตุผลดังนี้

  • เหตุผลแรกง่ายๆคือเซรั่มตัวนี้มันเวิร์คจริง ๆ
  • เหตุผลที่สองคือเซรั่มตัวนี้มีสิทธิบัตรสูตรพิเศษซึ่งพิสูจน์มาแล้วว่าให้ผลลัพธ์การใช้งานที่น่าพึงพอใจ

ทว่าเซรั่มตัวนี้มีราคาแพง เราจึงต้องพยายามเสาะหาตัวเลือกที่คุ้มค่าเงินที่คุณเสียไปมากที่สุด แน่นอน เรารู้ดีว่า Aqua+ Series เป็นแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียง แต่เราเองพบว่ามีทางเลือกอื่น ๆ ที่ให้ประสิทธิภาพดีได้เท่าเทียมกันในราคาที่ต่ำกว่า เห็นได้จากรีวิวเปรียบเทียบข้างล่างนี้ นอก Aqua+ Series แล้วยังมีแบรนด์อย่าง Skinceuticals, Paula’s Choice และ Kiehl’s ที่ให้ผลลัพธ์น่าพอใจ

คำเตือนแรก หากคุณมีผิวที่แพ้ง่าย ไม่ควรใช้เซรั่มที่มีวิตามินซีสูงกว่า 15% เนื่องจากความเข้มข้นระดับนี้สูงเกินไปสำหรับผิวแพ้ง่าย เราแนะนำให้คุณใช้เซรั่มวิตามินซี ของ Aqua+ Series ที่มีการันตีคืนเงินภายใน 60 วันหากไม่เห็นผล ปริมาณความเข้มข้นของวิตามินซีก็เหมาะสมกับผิวแบบคุณและคุณเองก็ได้รับผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมโดยไม่ระคายเคืองผิว

คำเตือนที่สอง ปัจจุบันมีแบรนด์นับพันที่ขายเซรั่มวิตามินซีราคาถูกในเว็บช็อปปิ้งออนไลน์อย่าง Lazada และ Shopee  แต่เซรั่มราคาถูกพวกนี้ไม่คุ้มค่าที่จะเสียเงินเลยสักนิด เซรั่มเหล่านั้นราคาถูกจนเราเองสงสัยว่าเป็นของปลอมหรือไม่ เราเองยังสงสัยว่าปริมาณวิตามินซีที่ระบุอยู่ข้างขวดเหล่านั้นถูกต้องจริงหรือไม่ เราจึงนำส่วนผสมมาวิเคราะห์เปรียบเทียบในตารางข้างล่างนี้


  BEST VALUE !      
 

Euphoria Thailand | Enriched C-Serum 5 เซรั่ม “วิตามินซี” สุดฮิต บำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส !

Euphoria Thailand | Enriched C-Serum 5 เซรั่ม “วิตามินซี” สุดฮิต บำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส !

Euphoria Thailand | Enriched C-Serum 5 เซรั่ม “วิตามินซี” สุดฮิต บำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส !

kiehls

  1 2 3 4
ชื่อ Aqua+ Series
Enriched C-Serum
Skinceuticals
C E Ferulic
Paula’s Choice
C15 Super Booster
Kiehl’s
Vitamin C
รูปแบบวิตามินซี Pure Vitamin C L-Ascorbic Acid Ascorbic Acid Ascorbyl Glucoside
% วิตามินซี 14% 15% 15% 12.5%
ค่า pH 3.0% 2.5% 3.0% 2.0%
ส่วนผสมอื่น ๆ กรดอะมิโน กรดเฟอรูลิก
และวิตามินอี
กรดเฟอรูลิก
และวิตามินอี
กรดไฮยาลูโรนิค
รูปแบบผิว ผิวมัน
และผิวแพ้ง่าย
ผิวปกติ
และผิวมัน
ทุกประเภทผิว ผิวปกติ
และผิวมัน
ราคา 1,710.- 6,200.- 2,200.- 3,200.-
แหล่งจำหน่าย ShopNow ShopNow ShopNow ShopNow

เหตุใดเราควรใช้เซรั่มวิตามินซีกับผิวของเรา?

ประโยชน์ของเซรั่มวิตามินซีคืออะไร ? คำตอบมีอยู่หลากหลายประการดังนี้

  • วิตามินซีช่วยให้ผิวกระชับขึ้นและดูอ่อนเยาว์ลงในเวลาเดียวกัน เพราะวิตามินซีคือองค์ประกอบสำคัญให้การสร้างคอลลาเจนบนผิวหนัง (Fibroblasts) แล้วคอลลาเจนนั้นแท้จริงแล้วคืออะไร? คอลลาเจนก็คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยให้ผิวคงความอ่อนเยาว์และอิ่มเอิบ ผิวที่ดูอ่อนเยาว์ กระชับและดูมีสุขภาพดีมาจากการที่คุณเติมวิตามินซีให้กับเซลล์ผิวหนังแล้วผิวหนังได้ทำการสังเคราะห์คอลลาเจนขึ้นมา คอลลาเจนอาจไม่ทำให้คุณเห็นผลลัพธ์ความแคกต่างทันที แต่มันจะช่วยให้ผิวของคุณคงสภาพดีได้แม้เวลาจะผ่านไป
  • วิตามินซีช่วยหยุดยั้งริ้วรอยที่มาก่อนวัยเนื่องจากวิตามินซีมีสารต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเหล่านี้มาจากสิ่งรอบตัวเราทั้งมลภาวะ ออกซิเจน และแสงแดดซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิตามินซีจะช่วยป้องกันผลกระทบจากอนุมูลอิสระเหล่านี้โดยการสร้างเกาะขึ้นมาปกป้องผิวของคุณ
  • วิตามินซีช่วยลดเลือนจุดด่างดำบนผิวของคุณพร้อมทั้งยังทำให้ผิวของคุณกระจ่างใสขึ้นด้วย เซรั่มวิตามินจะตรงเข้าไปลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ และจุดที่ไม่สม่ำเสมอของสีผิวคุณ ดังนั้นมันจะช่วยให้ผิวของคุณสว่างใสขึ้นด้วยในเวลาเดียวกันพร้อมกับการลดเลือนริ้วรอย เนื่องจาก Asในวิตามินซีจะเข้าไปหยุดยั้งการสังเคราะห์เมลานินในผิว (เมลานินเป็นตัวสร้างสีให้กับผมและผิวหนัง เมื่อมีมากไปจะทำให้ผิวหมองคล้ำ) และในบางกรณีวิตามินซียังช่วยลดรอยแดงจากการไหม้แดดด้วย
  • วิตามินซีช่วยให้สารกันแดดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ผิวของคุณมีภูมิต้านทานต่อแสงแดดมากขึ้น และ Dr. Oz ยังเชื่อว่าเซรั่มวิตามินซีสามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่อันตรายได้ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ไม่ควรใช้เซรั่มวิตามินซีแทนการใช้ครีมกันแดด แต่เราสามารถใช้วิตามินซีมาซ่อมแซมผิวได้หลังจากการไหม้แดดเพราะมันช่วยลดเลือนรอยดำ ลดจุดที่สีผิวไม่สม่ำเสมอกัน และลดเลือนริ้วรอยบนผิวจากการทำลายของแดด หากคุณเสริมเซรั่มวิตามินซีเข้าไปในกิจวัตรการดูแลผิวของคุณ แน่นอนว่าผิวของคุณจะดูอ่อนเยาว์และสดใสไปอีกนาน

แล้วเราจะเลือกผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้องอย่างไร?

ชื่อเสียงของแบรนด์

โปรดระวังแบรนด์ราคาถูกที่ไม่มีผลทดสอบทางการแพทย์มายืนยันคุณภาพผลิตภัณฑ์และไม่มีมาตรการดูแลลูกค้าอย่างจริงจัง ทุกวันนี้เราพบว่ามีแบรนด์เครื่องสำอางจำนวนมากในท้องตลาดที่ขายเซรั่มวิตามินในราคาตั้งแต่ 150-600 บาทต่อขวด ดังนั้นคุณควรเช็คเครื่องหมายรับประกัน ผลพิสูจน์ทางการแพทย์และรีวิวการใช้ให้ดีเสียก่อน

แต่อย่าลืมว่ารีวิวผลิตภัณฑ์ของเราไม่สามารถการันตีได้ว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์แบบเดียวกันกับผู้รีวิวของเราเนื่องจากผิวพรรณของมนุษย์มีความแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์ที่การันตีผลลัพธ์การใช้งานด้วยนโยบายคืนเงินจึงถือปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อเซรั่มวิตามินซี

ราคา

ราคาของเซรั่มวิตามินซีอยู่หลากหลายระดับ สำหรับผลิตภัณฑ์จากบางแบรนด์อย่างเช่น Skinceuticals ซึ่งจัดอยู่ในระดับไฮเอนด์ เซรั่มวิตามินซีมีราคาสูงกว่า 5,000 บาทแม้จะขนาดไม่ถึง 30 มิลลิลิตร ราคานี้อาจไม่คุ้มค่าถ้าคุณไม่ได้มีเงินเหลือมากขนาดนั้น อย่างไรก็ตามคุณยังสามารถหาเซรั่มที่ราคาต่ำกว่านั้นแต่มีประสิทธิภาพดีได้อย่างเช่น Aqua+ Series Enriched C-Serum, Kiehl’s Vitamin C และ Paula’s Choice

ในทางกลับกัน คุณสามารถจ่ายแค่เพียง 500 บาทแล้วได้เซรั่มเคลมว่าสามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวของคุณ แต่คุณควรระวังให้ดี เพราะ Vitamin C และ Hyaluronic Acid ไม่ใช่สารสกัดที่ราคาถูกจนสามารถขายเซรั่มได้ในราคานั้นแล้วระบุบนฉลาดว่ามีส่วนผสมของวิตามินซีถึง 20%

ส่วนประกอบ

ส่วนประกอบอื่นที่ผสมอยู่ในเซรั่มก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรตรวจสอบให้ดีว่าเซรั่มนั้นผสมสารออกฤทธิ์อื่นอย่างเช่นวิตามินอี กรดอมิโน และว่านหางจระเข้หรือไม่

บทสรุป

เวลาที่คุณไปเลือกซื้อเซรั่มวิตามินซี การเช็คคุณสมบัติเหล่านี้ให้ครบถ้วนจะช่วยให้คุณได้พบกับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับคุณ อย่างไรก็ตาม คุณต้องอย่าลืมว่าแม้คุณจะใช้ผลิตภัณฑ์สูตรที่ดีที่สุด คุณก็อาจเป็นหนึ่งคนที่ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับผลลัพธ์อันชัดเจน จากผลการพิสูจน์พบว่ามีเพียง 80% เท่านั้นได้ผลลัพธ์ดีอย่างสังเกตได้

หากคุณใช้วิตามินซีแบบที่นิยมในท้องตลาด (I-ascorbic acid) แล้วไม่ได้ผลลัพธ์อันสังเกตได้ คุณอาจต้องลองเปลี่ยนไปใช้สารอื่นเช่น Sodium Magnesium Ascorbyl Phosphate และ Ascorbyl Palmitate หรือแม้กระทั่งลองเปลี่ยนแปลงวิธีการทา เวลาในการทา และวิธีการในเก็บผลิตภัณฑ์

ดังนั้นหากเซรั่มที่คุณเลือกใช้ไม่ได้ผล คุณควรลองใช้เซรั่มอื่นที่มาจากสารสกัดที่แตกต่าง